ความหมาย
พลเมืองดี หมายถึง
ประชาชนที่ประพฤติปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคมมีความรับผิดชอบต่อ
หน้าที่ ของตนเอง
รู้จักบทบาทหน้าที่ของตนเอง
และปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมไม่ละเมิดล่วงล้ำสิทธิ
และเสรีภาพของ บุคคลอื่น
ความสำคัญ
พลเมืองเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของสังคมของสังคมไทย
เช่นเดียวกับสังคมอื่น ๆ ทุกสังคมย่อมต้องการพลเมืองที่มีคุณภาพ
ซึ่งหมายถึงความมีร่างกายจิตใจดี คิดเป็น ทำเป็น แก้ไขปัญหาได้
มีประสิทธิภาพเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้า
ความมั่นคงให้กับประเทศชาติและการเป็นพลเมืองดีนั้นย่อมต้องการปฏิบัติตามบรรทัดฐานและขนบธรรมเนียมประเพณีของสังคมมีคุณธรรมเป็นแนวปฏิบัติในการดำเนินชีวิตอีกด้วย
เพื่อการพัฒนาสังคมให้ยั่งยืน
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาให้เป็นพลเมืองดี
วัตถุประสงค์ของการพัฒนาให้เป็นพลเมืองดี
มีดังนี้
1.
เพื่อให้รู้จักปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคม
2.
เพื่อปลูกฝังทักษะการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม
3.
เพื่อปลูกฝังความมีระเบียบวินัย และเคารพกฎหมาย
4.
เพื่อปลูกฝังให้มีทัศนคติและค่านิยมที่ดีต่อสังคม
ลักษณะของพลเมืองดี
การเป็นพลเมืองดีจะมีลักษณะอย่างไรนั้น
สังคมจะเป็นผู้กำหนดลักษณะที่พึงประสงค์เพื่อที่จะได้พลเมือง ที่ดี
ต้องการังนั้นคุณสมบัติของสมาชิกในสังคมก็จะต้องมีคุณสมบัติที่เป็นพื้นฐานและคุณสมบัติเฉพาะ
ดังนี้
คุณสมบัติพื้นฐาน คือ คุณสมบัติทั่วไปของการเป็นพลเมืองดี เช่นขยัน อดทน
ซื่อสัตย์ ประหยัด
รับผิดชอบ มีเหตุผล โอบอ้อมอารี มีเมตตา
เห็นประโยชน์ส่วนรวมมีความสำคัญเสมอ
คุณสมบัติเฉพาะ คือ
คุณสมบัติเฉพาะอย่างที่สังคมต้องการให้บุคคลพึ่งปฏิบัติ
เช่นต้องการบุคคลที่มี
คุณธรรมนำความรู้
ต้องการให้คนในสังคมไทยหันมาสนใจ
พัฒนาวิจัยในงานอาชีพด้านการเกษตรให้มาก
เนื่องจากเป็นพื้นฐานของสังคมไทย
เนื่องจากเป็นพื้นฐานของสังคมไทย เพื่อการพัฒนาสังคมให้เจริญ
ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก
1. เคารพกฎหมายและปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับของสังคม
เมื่อพลเมืองทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับของสังคม และบทบัญญัติของกฎหมาย
เช่น ไม่ล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น
หรือไม่กระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนดก็จะทำให้รัฐไม่ต้องเสียงบประมาณในการป้องกัน
ปราบปรามและจับกุมผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษ
นอกจากนี้ยังทำให้สังคมมีความเป็นระเบียบสงบสุขทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์
ไม่หวาดระแวงคิดร้ายต่อกัน
2.เป็นผู้มีเหตุผล
และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นทุกคนย่อมมีอิสรเสรีภาพในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน
ซึ่งการรู้จักการใช้เหตุผลในการดำเนินงาน จะทำให้ช่วยประสานความสัมพันธ์
ทำให้เกิดความเข้าใจอันดีงามต่อกัน
3.ยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่
เมื่อมีความขัดแย้งกันในการดำเนินกิจกรรมอันเกิดจากความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
และจำเป็นต้องตัดสินปัญหาด้วยการใช้เสียงข้างมากเข้าช่วย
และมติส่วนใหญ่ตกลงว่าอย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงกับความคิดของเรา
เราก็ต้องปฏิบัติตาม
เพราะเป็นมติของเสียงส่วนใหญ่นั้น
4.เป็นผู้นำมีน้ำใจประชาธิปไตย และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
ผู้ที่มีความเป็นประชาธิปไตยนั้น จะต้องมีความเสียสละในเรื่องที่จำเป็น
เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมและรักษาไว้ซึ่งสังคมประชาธิปไตย เป็นการส่งผลต่อความมั่นคงและความก้าวหน้าขององค์กร ซึ่งสุดท้ายแล้วผลประโยชน์ดังกล่าวก็ย้อนกลับมาสู่สมาชิกของสังคม เช่นการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ถึงแม้ว่าเราจะมีอาชีพบางอย่างที่มีรายได้ตลอดเวลา
เช่นค้าขาย แต่ก็ยอมเสียเวลาค้าขายเพื่อไปลงสิทธิ์เลือกตั้ง
บางครั้งเราต้องมีน้ำใจช่วยเหลือกิจกรรมส่วนร่วม เช่น
การสมัครเป็นกรรมการเลือกตั้ง หรือสมาคมบำเพ็ญประโยชน์ส่วนรวม
เป็นต้น
5.เคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
ควรรูจักเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นเช่นบุคคลมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด
แต่ต้องไม่เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นที่ใส่ร้ายผู้อื่นให้เสียหาย
6.มีความรับผิดชอบต่อตนเอง
สังคม ชุมชน ประเทศชาติ ในการอยู่ร่วมกันในสังคม ย่อมต้องมีการทำงานเป็นหมู่คณะ
จึงต้องมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในงานนั้นๆให้สมาชิกแต่ละคนนำไปปฏิบัติตามที่ได้รับหมอบหมายไว้อย่างเต็มที่
7.มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมือง การปกครอง
ในสังคมประชาธิปไตยนั้นสมาชิกทุกคนต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมืองการปกครอง เช่น
การเลือกตั้ง เป็นต้น
8.มีส่วนร่วมในการป้องกัน
แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง
ช่วยสอดส่องพฤติกรรมมั่วสุมของเยาวชนในสถานบันเทิงต่าง
ไม่หลงเชื่อข่าวลือคำกล่าวร้ายโจมตี ไม่มองผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเราเป็นศัตรู
รวมถึงสงเสริมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆด้วยสันติวิธี
9. มีคุณธรรม จริยธรรม
และปฏิบัติตนตามหลักธรรม
ทุกคนควรมีศีลธรรมไว้เป็นหลักในการควบคุมพฤติกรรมของบุคลให้ดำเนินไปอย่างเหมาะสม
ถึงแม้จะไม่มีบทลงโทษใดๆก็ตาม
แนวทางการพัฒนาตนเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก
ถ้าบุคคลตระหนักถึงคุณลักษณะของการเป้นพลเมืองดีต่อประเทศชาติและสังคมโลกทั้ง
7 ประการดังกล่าวแล้ว ก็สมควรจะพัฒนาตนเองให้มีคุณคุณลักษณะดังกล่าวด้วย เพื่อที่จะได้เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว โรงเรียน และชุมชน ซึ่งแนวทางการพัฒนาตนเป็นพลเมืองดี มีดังนี้
1.
การเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว
ในครอบครัวจะประกอบด้วยสมาชิกที่สำคัญ ได้แก่ พ่อ แม่ และลูก
ในบางครอบครัวคนอื่น ๆ ร่วมอยู่ด้วย เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย
เมื่อเราอยู่ร่วมกันในครอบครัว
สมาชิกทุกคนต่างก็มีบทบาทและหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ เช่น
2.การเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรียน
เมื่อเราอยู่ในโรงเรียน เราทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติต่อโรงเรียน
เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้ ซึ่งเราต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ อีกมากมาย
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของห้องเรียนและโรงเรียน
เพื่อที่จะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น
- เมื่อมาโรงเรียน
เราต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของโรงเรียน เช่น แต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบ
มาให้ทันเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้า
- เมื่ออยู่ในโรงเรียน
เราต้องช่วยกันรักษาความสะอาดในห้องเรียน และในบริเวณต่าง ๆ ของโรงเรียน
ทิ้งขยะลงในถังขยะที่โรงเรียนจัดให้
- ให้ความเคารพเชื่อฟังครูอาจารย์
ตั้งใจเรียนหนังสือ รวมทั้งทำงานต่าง ๆ
ที่ครูมอบหมายด้วยความตั้งใจและเอาใจใส่
นอกจากนี้
เราควรปฏิบัติตนให้เป็นสมาชิกที่ดีของห้องเรียนและโรงรียน
เช่น
- ปฏิบัติในการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
ต้องรู้ว่าเมื่อเราเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ควรปฏิบัติตนอย่างไร
และเมื่อเป็นผู้ตามควรปฏิบัติตนอย่างไร
-
รู้จักแสดงความคิดเห็นตามสิทธิของตนเอง รวมทั้งรุ้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
และเคารพข้อตกลงของคนส่วนใหญ่
- ถ้าเกิดข้อขัดแย้งกัน
ให้แก้ปัญหาด้วยหลักเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์หรือพละกำลังในการแก้ปัญหา
เพราะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง แต่กลับจะทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ
ตามมา
- ในการแข่งขันทำกิจกรรมต่าง ๆ
ของโรงเรียน เช่น การแข่งกีฬา การประกวดในด้านต่าง ๆ
ต้องฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้รู้จักแพ้ ชนะ และให้อภัย
รวมทั้งยอมรับในคำตัดสินของคณะกรรมการ
3.
การเป็นสมาชิกที่ดีของชุมชน
การปฏิบัติตนในฐานะตนในฐานะสมาชิกของชุมชน
สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งในวัยของนักเรียนควรปฏิบัติ ดังนี้
3.1 ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของชุมชน เช่น
ปฏิบัติตามกฎจราจร โดยข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือสะพานลอย
ไม่วิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถ ไม่ทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ
ไม่ทำลายสิ่งของที่เป็นของสาธารณะ
และทรัพย์สินส่วนตัวของผู้อื่นให้ได้รับความเสียหายเพราะความสนุกสนานของตนเอง
3.2 เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน
เพื่อช่วยรักษาและเผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของชุมชนไว้
ในแต่ละชุมชนจะมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมา เช่น
ประเพณีการทำบุญเมื่อถึงวันสำคัญทางศาสนา ประเพณีวันสงกรานต์
ประเพณีวันลอยกระทง
3.3 บำเพ็ญประโยชน์ต่อชุมชน เช่น
ช่วยเก็บเศษขยะที่พบเห็นในบริเวณต่าง ๆ ช่วยดูแลต้นไม้
ดอกไม้ในสวนสาธารณะของชุมชน
3.4
ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน
โดยให้ทุกคนในชุมชนมีจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ชุมชนที่มีป่าชายเลน
ควรจะร่วมใจกันอนุรักษ์ป่าชายเลน เพื่อให้เป็นที่อยู่ของสัตว์ต่าง ๆ
รวมทั้งยังเป็นแหล่งหลบภัยของลูกสัตว์น้ำอีกด้วย
ชุมชนที่อยู่ติดชายทะเล
ควรร่วมใจกันรักษาความสะอาดของชายหาด
เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของชุมชน
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนควรเป็นความร่วมมือกันหลายฝ่ายระหว่างบ้าน
โรงเรียน และชุมชน
4.
การเป็นสมาชิกที่ดีของประเทศชาติและสังคมโลก
4.1เคารพกฎหมายและปฎิบัติตามกฎระเบียบ
ข้อบังคับของสังคม
เมื่อพลเมืองทุกคนปฎิบัติตามกฎระเบียบ ข้อบังคับของสังคม และบทบัญญัติของกฎหมาย
เช่น ไม่ล่วงละเมิดสิทธิของผู้ะอื่น
หรือไม่กระทำความผิดตามที่กฎหมายกำหนดก็จะทำให้รัฐไม่ต้องเสียงบประมาณในการป้องกัน
ปราบปรามและจับกุมผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษ
นอกจากนี้ยังทำให้สังคมมีความเป็นระเบียบสงบสุขทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์
ไม่หวาดระแวงคิดร้ายต่อกัน
4.2 เป็นผู้มีเหตุผล
และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
ทุกคนย่อมมีอิสระเสรีภาพในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน
ซึ่งการรู้จักการใช้เหตุผลในการดำเนินงาน จะทำให้ช่วยประสานความสัมพันธ์
ทำให้เกิดความเข้าใจอันดีงามต่อกัน
4.3ยอมรับมติของเสียงส่วนใหญ่
เมื่อมีความขัดแย้งกันในการดำเนินกิจกรรมอันเกิดจากความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
และจำเป็นต้องตัดสินปัญหาด้วยการใช้เสียงข้างมากเข้าช่วย
และมติส่วนใหญ่ตกลงว่าอย่างไร ถึงแม้ว่าจะไม่ตรงกับความคิดของเรา
เราก็ต้องปฎิบัติตาม เพราะเป็นมติของเสียงส่วนใหญ่นั้น
4.4เป็นผู้นำมีน้ำใจประชาธิปไตย และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
ผู้ที่มีความเป็นประชาธิปไตยนั้น จะต้องมีความเสียสละ ในเรื่องที่จำเป็น
เพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมและรักษาไว้ซึ่งสังคมประชาธิปไตย
เป็นการส่งผลต่อความมั่นคง และความก้าวหน้าขององค์กร
ซึ่งสุดท้ายแล้วผลประโยชน์ดังกล่าวก็ย้อนกลับมาสู่สมาชิกของสังคม
เช่นการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ถึงแม้ว่าเราจะมีอาชีพบางอย่างที่มีรายได้ตลอดเวลา
เช่นค้าขาย แต่ก็ยอมเสียเวลาค้าขายเพื่อไปลงสิทธิ์เลือกตั้ง
บางครั้งเราต้องมีน้ำใจช่วยเหลือกิจกรรมส่วนร่วม เช่น
การสมัครเป็นกรรมการเลือกตั้ง หรือสมาคมบำเพ็ญประโยชน์ส่วนรวม
เป็นต้น
4.5เคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น
ควรรูจักเคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นเช่นบุคคลมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
การพูด
แต่ต้องไม่เป็นการพูดแสดงความคิดเห็นที่ใส่ร้ายผู้อื่นให้เสียหาย
4.6มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม ชุมชน ประเทศชาติ
ในการอยู่ร่วมกันในสังคม ย่อมต้องมีการทำงานเป็นหมู่คณะ
จึงต้องมีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในงานนั้นๆให้สมาชิกแต่ละคนนำไปปฎิบัติตามที่ได้รับหมอบหมายไว้อย่างเต็มที่
4.7มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมือง การปกครอง
ในสังคมประชาธิประไตยนั้นสมาชิกทุกคนต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมืองการปกครอง
เช่น การเลือกตั้ง เป็นต้น
4.8มีส่วนร่วมในการป้องกัน แก้ไขปัญหาเศษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง
ช่วยสอดส่องพฤติกรรมมั่วสุมของเยาวชนในสถานบันเทิงต่าง
ไม่หลงเชื่อข่าวลือคำกล่าวร้ายโจมตี ไม่มองผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเราเป็นศัตรู
รวมถึงสงเสริมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆด้วยสันติวิธี
4.9มีคุณธรรม
จริยธรรม และปฎิบัติตนตามหลักธรรม
ทุกคนควรมีศีลธรรมไว้เป็นหลักในการควบคุมพฤติกรรมของบุคลให้ดำเนินไปอย่างเหมาะสม
ถึงแม้จะไม่มีบทลงโทษใดๆก็ตาม
คุณธรรม จริยธรรมของการเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก
คุณธรรม จริยธรรมของการเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก
คุณธรรม จริยธรรมคือ
สิ่งที่เป็นความดีควรประพฤติปฏิบัติ เพราะจะนำความสุข ความเจริญ
ความมั่นคงมาสู่ประเทศชาติ สังคม และบุคคล คุณธรรมจริยธรรมที่สำคัญ ๆ
มีดังต่อไปนี้
1. ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ ประเทศชาติ
2.
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ หมายถึง การปฏิบัติกิจการงานของตนเอง
และที่ได้รับมอบหมายด้วยความมานะพยายาม อุทิศกำลังกาย กำลังใจอย่างเต็มความสามารถ
ทั้งนี้รวมไปถึงการรับผิดเมื่องานล้มเหลว
พยายามแก้ไขปัญหาและอุปสรรคโดยไม่เกี่ยงงอนผู้อื่น
3. ความมีระเบียบวินัย หมายถึง
การเป็นผู้รู้และปฏิบัติตามแบบแผนที่ตนเอง ครอบครัว และสังคมกำหนดไว้
โดยที่จะปฏิเสธไม่รับรู้กฎเกณฑ์หรือกตาต่าง ๆ ของสังคมไม่ได้
4. ความซื่อสัตย์ หมายถึง
การปฏิบัติตน ทางกาย วาจา จิตใจ
ที่ตรงไปตรงมา ไม่แสดงความคดโกงไม่หลอกลวง ไม่เอาเปรียบผู้อื่น ลั่นวาจาว่าจะทำงานสิ่งใดก็ต้องทำให้สำเร็จเป็นอย่างดี ไม่กลับกลอก มีความจริงใจต่อทุกคน จนเป็นที่ไว้วางใจของคนทุกคน
5. ความเสียสละ หมายถึง
การปฏิบัติตนโดยอุทิศกำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังปัญญา
เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมด้วยความตั้งใจจริง มีเจตนาที่บริสุทธิ์ คุณธรรมด้านนี้เป็นการสะสมบารมีให้แก่ตนเอง
ทำให้มีคนรักใคร่ไว้วางใจ เป็นที่ยกย่องของสังคม ผู้คนเคารพนับถือ
6. ความอดทน หมายถึง
ความเป็นผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรคใด ๆ
มุ่งมั่นที่จะทำงานให้บังเกิดผลดีโดยไม่ให้ผู้อื่นเดือดร้อน ความอดทนมี 4 ลักษณะ
คือ
- อดทนต่อความยากลำบาก เจ็บป่วย
ได้รับทุกขเวทนาก็ไม่แสดงอาการจนเกินกว่าเหตุ
- อดทนต่อการตรากตรำทำงาน ไม่ทอดทิ้งงาน
ฟันฝ่าอุปสรรคจนประสบผลสำเร็จ
-
อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่แสดงความโกรธ ไม่อาฆาตพยาบาท อดทนต่อคำเสียดสี
- อดทนต่อกิเลส คือ
ไม่อยากได้ของผู้อื่นจนเกิดทุกข์ ไม่ตอบโต้คนอื่นที่ทำให้เราโกรธ
และไม่ลุ่มหลงในสิ่งที่จะพาเราไปพบกับความเสียหาย
7. การไม่ทำบาป หมายถึง
การงดเว้นพฤติกรรมที่ชั่วร้าย สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเพราะเป็นเรื่องเศร้าหมองของจิตใจ ควรงดเว้นพฤติกรรมชั่วร้าย
3 ทาง คือ
- ทางกาย เช่น ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทุจริต
ไม่ลักขโมย ไม่ผิดประเวณี
- ทางวาจา เช่น ไม่โกหก
ไม่กล่าวถ้วยคำหยาบคาย ไม่ใส่ร้าย
- ทางใจ เช่น ไม่คิดเนรคุณ ไม่คิดอาฆาต
ไม่คิดอยากได้
8. ความสามัคคี
หมายถึง การที่ทุกคนมีความพร้อมกาย พร้อมใจ และพร้อมความคิดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มีจุดมุ่งหมายที่จะปฏิบัติงานให้ประสบความสำเร็จ
โดยไม่มีการเกี่ยงงอนหรือคิดชิงดีชิงเด่นกัน ทุกคนมุ่งที่จะให้สังคมและประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง
มีความรักใคร่กลมเกลียวกันด้วยความจริงใจ ความไม่เห็นแก่ตัว การวางตนเสมอต้นเสมอปลายก็หมายถึงความสามัคคีด้วย
บทบาทหน้าที่ของพลเมืองดีต่อประเทศชาติ
และสังคมโลก
บทบาท หมายถึง การปฏิบัติตามสิทธิ หน้าที่อันเนื่องมาจากสถานภาพของบุคคล เนื่องจากบุคคลมีหลายสถานภาพในคนคนเดียว ฉะนั้นบทบาทของบุคคลจึงต้องปฏิบัติไปตามสถานภาพในสถานการณ์ตามสถานภาพนั้น
ๆ
หน้าที่ หมายถึง ภาระรับผิดชอบของบุคคลที่จะต้องปฏิบัติ เช่น หน้าที่ของบิดาที่มีต่อบุตร เป็นต้น
การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวัฒนธรรมไทย
วัฒนธรรม คือ
แบบแผนการกระทำ
หรือผลการกระทำที่พัฒนาจากสภาพเดิมตามธรรมชาติให้ดีงามยั่งยืนจนเป็นที่ยอมรับของคนในสังคม เช่น
กิริยา มารยาท การพูด การแต่งกาย การรับประทานอาหาร เป็นต้น วัฒนธรรมการไหว้
เป็นวัฒนธรรมภายนอกที่มักได้รับการตอบสนองจากผู้ได้รับด้วยการไหว้ตอบนอกจากนี้
ยังมีวัฒนธรรมไทยอื่นๆที่งดงาม เช่น การกราบ การทำบุญตักบาตร การแต่งกายแบบไทย
เป็นต้น
การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามประเพณีไทย
ขนบธรรมเนียมประเพณี คือ
สิ่งที่ปฏิบัติสืบทอดสืบทอดกันมาและถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามของแต่ละสังคมอาจเหมือนกัน
คล้ายกัน หรือแตกต่างกันก็ได้ และสิ่งที่ดีงามของสังคมหนึ่งเมื่อเวลาผ่าน
ไปสังคมนั้นอาจเห็นเป็นสิ่งไม่ดีงามก็ได้
วัฒนธรรมและประเพณีไทย
เป็นกิจกรรมที่สืบทอดมายาวนานและสังคมยอมรับว่าเป็นสิ่งดีควรอนุรักษ์ไว้
การเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมไทยและสังคมโลก